Alpine Master

ในปีนี้ Kovea ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นจำนวนมากแต่สิ่งที่คนตั้งแคมป์หรือแบกเป้ให้ความสนใจมากคือAlpine Master เป็นชุดหม้อพกพาแบบ all-in-one เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากในสภาพแวดล้อมต่างๆ และยังคงความเรียบง่าย

สิ่งมหัสจรรย์ที่อยู่ในกล่องบรรจุภัณฑ์นี้เป็นอะไรไปไม่ได้เสียจาก Alpine Master

สิ่งที่รู้สึกได้เมื่อนำอัลไพน์มาสเตอร์ออกจากกล่องนั้นเบามาก มีตัวเตาพร้อมถุง หม้อ กระทะ ที่วางเตา และถุงเก็บ ทั้งหมดรวมน้ำหนักได้ 883 กรัม ขนาดโดยรวมยังคงความกะทัดรัดมาก178x178x213mm(ขนาดวัดจากกล่องบรรจุภัณฑ์)
ดูจากองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ Alpine Master มีข้อได้เปรียบกว่ายี่ห้ออื่นๆตรงที่ฝาปิดสามารถใช้เป็นกระทะได้ซึ่งต่างจากสินค้าใกล้เคียงยี่ห้ออื่นๆที่ต้องซื้อเป็นออปชั่นเสริม

อีกจุดเด่นของเตารุ่นคือมีขาตั้งเตาแถมมาให้ในชุดด้วย ทำให้วางภาชนะได้หลากหลาย และยังแพ็คเก็บเข้าไปในชุดหม้อได้โดยไม่เปลืองพื้นที่

ลักษณะของหัวเตา เป็นการเผาไหม้แบบพื้นผิว ทำให้ได้พลังงานความร้อนสูงและยังคงความประหยัดพลังงาน วัสดุทำจากโฟมโลหะ
อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น คือผิวสัมผัสคล้ายกับการถูกับฟองน้ำแข็งๆหยาบๆ

ด้านข้างของตัวเตาถูกปิดด้วยแตนเลสเจาะรูเพื่อให้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์และยังมีลวดลายที่สวยงาม

ตอนนี้จะเห็นสัญญลักษณ์ ‘on กับ off ’

วาล์วสำหรับควบคุมความแรงของไฟติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างของเตา เพียงพับออกมาก็พร้อมที่จะใช้งาน

ชิ้นส่วนตรงกลางที่เป็นรูกลมใช้เพื่อใส่ถังแก๊ส และแน่นอนเป็นที่สุดเตารุ่นนี้ใช้แก๊สซาลาเปาเป็นเชื้อเพลิง ไม่แนะนำให้ใช้อแดปเตอร์, สายต่อพวง หรือการต่อพวงแบบอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้แก๊สซาลาเปา อาจจะทำให้เกิดการระเบิด ,ไฟไหม้ และปัญหาอื่นๆ

เป็นรูปหัวเตาเมื่อใช้กับถังขนาด 450 กรัม

หม้อขนาด 2 ลิตร ทำมาจาก Hard anodized aluminum มีน้ำหนักเบา, นำความร้อนได้ดีมากและที่สำคัญมีความทนทานเป็นเลิศ

ด้ามจับสามารถพับเก็บหรือกางออกได้โดยการใช้มือปีบเบาๆ

ด้ามจับถูกออกแบบให้มีความยาวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บ ถึงแม้หม้อจะร้อนมากก็ไม่ทำให้ต้องกังวลว่าด้ามจับจะร้อนลวกมือ

หม้อมีความจุถึง 2ลิตร แต่แนะนำว่าไม่ควรเติมน้ำเกิน 1.2 ลิตร เพื่อป้องกันการเดือดจนล้น ในตัวหม้อมีscale บอกถึงขีดสูงสุดอยู่สามารถใช้อ้างอิงได้ และที่สำคัญ scale ที่อยู่บนตัวหม้อนั้นเป็นแบบปั๊มนูนดั้งนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลบเลือนหายไปแม้จะใช้มายาวนาน


ด้านล่างของหม้อมีรูระบายอากาศเพื่อการเผาไหม้ของแก๊สเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ก้นหม้อของ Alpine Master ได้นำเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนความร้อนมาใช้ เพื่อลดการสูญเสียความร้อน

ช่วยให้กระจายความร้อนอย่างเท่ากันทั่วทั้งหม้อ นั้นหมายถึงการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

เตารุ่นนี้ไม่มีตัวช่วยจุด (Igniter) วิธีการจุดโดยการเปิดแก๊สเบาๆแล้วจุดด้วยไฟแช็กหรือไม่ขีดไฟ เตาตัวนี้มีความพิเศษตรงระบบเผาไหม้ที่เรียกว่า‘SCS (Surface Combustion System)’การเผาไหม้ของก๊าซไม่เกิดขึ้นในอากาศ แต่จะเกิดขึ้นบนพื้นผิวดั้งนั้นจึงสูญเสียความร้อนน้อยมาก

เมื่อวางหม้อลงไปบนเตาลงล็อกอย่างง่ายดาย

ตัวหม้อกับเตาแนบกันสนิทโดยไม่มีช่องวาง นี่คืออีกจุดเด่นของเตารุ่นนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเชิงความร้อนและสามารถต้มน้ำให้เดือดในเวลาอันสั้น

ทดลองเติมน้ำและลองต้ม จะเห็นไฟสีแดงๆตรงร่องระบายอากาศของก้นหม้อ และการควบคุมไฟสามารถปรับได้ละเอียดเนียนมาก

ไม่ว่าลมจะแรงแค่ไหนก็ไม่ใช้ปัญหา สามารถต้มน้ำ1 ลิตรให้เดือดได้เร็วมากใช้เวลาเพียง 2นาทีกับอีก 40 วินาที (อุณหภูของน้ำเริ่มต้นที่20℃ ) เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ปริมาณการใช้แก๊สก็ถือว่าดีพอตัวอยู่ที่162 กรัมต่อชั่วโมง (1,919kcal)

มาในส่วนของฝาหม้อ สามารถใช้เป็นกระทะและเคลือบด้วยวัสดุกันติด ทำให้การทอดเป็นเรื่องง่าย

ที่จับกระทะจะเป็นโครงสร้างพับได้เช่นเดียวกับหม้อ

ด้ามจับยาวและมีฉนวนหุ้มทำให้ไม่ร้อนมือเวลาใช้งาน

ลักษณะด้านในของฝาหรือกระทะ ลองดูการเคลือบกันติดทำได้เนียนดี ความรู้สึกตอนใช้งานก็เหมือนกับกระทะเคลือบกันติดที่ใช้ในบ้าน

เมื่อนำฝาปิดลงไปบนหม้อ ให้ความรู้สึกพอดีกับตัวหม้อไม่หลวมครอกแครก

มีขาตั้งเตาให้มาในชุดด้วย ทำให้ใช้ภาชนะได้หลากหลายโดยไม่ต้องถูกจำกัดว่าต้องใช้ได้แค่หม้อของเขาเอง ถ้าเป็นบางยี่ห้อก็ต้องซื้อเพิ่มต่างหากหรือไม่ก็ไม่อนุญาติให้ใช้ขาตั้งเพราะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เตาเสียหายได้ แต่ถ้าเป็น Alpine Master สามารถใช้ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวล

เป็นรูปแบบใช้ฝาเป็นกระทะหลังจากติดตั้งขาตั้งบนหัวเตา

กาต้มกาแฟก็วางได้ไม่ผิดกติกา
รองรับหม้อได้หลากหลายแบบแต่แนะนำไม่ควรเกินขนาด 20 ซม.

กระทะนี้สามารถทอดไข่ได้ที่เดียวถึงสองใบ โดยส่วนใหญ่แล้วเตาแบบbackpacking จะไม่เพียงพอสำหรับคนสองคน ตอนนี้กำลังทดลองใช้กระทะผัดกับข้าวอยู่

กระทะวางบนเตาโดยไม่รู้สึกสั่นคลอน ตอนแรกก็กังวลใจว่าการให้ความร้อนจะแตกต่างกับเตาที่ใช้เป็นแบบเปลวไฟหรือเปล่า(เพราะร้อนเร็วมากกลัวอาหารไหม้)

ตอนนี้หายกังวลแล้ว สามารถใช้ได้ไม่ต่างจากเตาที่เป็นเปลวไฟและการเคลือบกันติดนั้นทำได้ดี แน่นอนการเคลือบนั้นมีความสำคัญช่วยให้มีความสะดวกขึ้นเยอะมาก

สุดท้ายก็มาถึงเรื่องของการจัดเก็บ ขั้นแรกถุงใส่เตา ใช้ใส่หัวเตา, ขาตั้งเตา และแก๊สซาลาเปาขนาด 230กรัม จะถูกจัดเก็บไว้ในถุงใบนี้

จากนั้นก็ใส่ลงไปในหม้อ แล้วปิดฝา ในส่วนของด้ามจับหม้อกับฝาจะพับค่อมกัน

แล้วนำมาใส่ถุงใส่หม้อเป็นอันเสร็จพิธี

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านบทความนี้ หากมีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วย